ผลวิจัยชี้วัคซีน “ไฟเซอร์” ป้องกันโอมิครอนได้บางส่วน แอนติบอดี้ลดลง 44 เท่า
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2564 ว่า หัวหน้าฝ่ายวิจัยห้องปฏิบัติการของสถาบันวิจัยสุขภาพแอฟริกาในแอฟริกาใต้ระบุว่า โควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน (Omicron) สามารถหลบหลีกภูมิคุ้มกันบางส่วนที่เกิดจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทคได้ โดยการศึกษาพบว่าการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น หรือบูสเตอร์โดส สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันเพิ่มเติมได้
นายอเล็กซ์ ซิกาล หัวหน้าฝ่ายวิจัยห้องปฏิบัติการ ระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า โควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนส่งผลให้ระดับแอนติบอดีชนิดลบล้างฤทธิ์ (neutralizing antibody) ลดลงอย่างมาก เมื่อเทียบกับสายพันธุ์ก่อนหน้านี้ของโควิด
โดยห้องปฏิบัติการได้ทดสอบเลือดจากผู้ที่ได้รับวัคซีนไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค จำนวน 2 โดส ทั้งหมด 12 คน พบว่า 5 ใน 6 คนที่ได้รับวัคซีนและเคยติดเชื้อโควิด-19 มาก่อนหน้านี้ ยังคงมีภูมิคุ้มกันลบล้างฤทธิ์ของโอมิครอน โดยระดับแอนติบอดีลบล้างฤทธิ์ (neutralizing antibodies) กับสายพันธุ์โอมิครอน ลดลงถึง 44 เท่า
แต่ทั้งนี้ในห้องปฏิบัติการยังไม่ได้ทดสอบสายพันธุ์นี้กับเลือกจากผู้ที่ได้รับวัคซีนกระตุ้น เนื่องจากในแอฟริกายังไม่มีการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น รวมถึงข้อมูลนี้มีความเป็นไปได้จะเปลี่ยนไป หลังจากมีการทดสอบในห้องปฏิบัติการเพิ่มเติม ทั้งรายงานดังกล่าวยังเป็นผลการศึกษาเบื้องต้นเท่านั้น
“ผลลัพธ์เหล่านี้ดีกว่าที่คาดไว้ ยิ่งมีแอนติบอดีมากเท่าไร โอกาสที่จะได้รับการปกป้องจากโอมิครอนก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น”
ทั้งนี้โควิดสายพันธุ์โอมิครอน ที่พบครั้งแรกในแอฟริกาตอนใต้เมื่อเดือนที่ผ่านมา ได้จุดชนวนให้เกิดสัญญาณเตือนทั่วโลกว่ามีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) เมื่อวันที่ 26 พ.ย. จัดเป็น “สายพันธุ์ที่น่ากังวล” แต่กล่าวว่าไม่มีหลักฐานสนับสนุนความจำเป็นในวัคซีนใหม่ที่พัฒนามาโดยเฉพาะเพื่อจัดการกับสายพันธุ์ใหม่
ขณะเดียวกันยังไม่มีข้อมูลสำคัญว่าวัคซีนจากโมเดอร์นา (Moderna) จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (Johnson & Johnson) และผู้ผลิตยารายอื่นๆ รับมือกับตัวแปรใหม่ได้อย่างไร ผู้ผลิตทั้งหมด รวมทั้งไฟเซอร์และไบโอเอ็นเทคคาดว่าจะเปิดเผยข้อมูลของตนเองภายในไม่กี่สัปดาห์
ด้าน ดร.แอนโทนี เฟาซี หัวหน้าที่ปรึกษาทางการแพทย์ของทำเนียบขาว กล่าวเมื่อวันอังคารว่า หลักฐานเบื้องต้นบ่งชี้ว่าสายพันธุ์โอมิครอนมีแนวโน้มแพร่เชื้อได้สูงกว่า แต่มีความรุนแรงน้อยกว่า และสหรัฐฯ กำลังทำการทดสอบของตนเองเพื่อกำหนดความสามารถในการป้องกันของวัคซีนปัจจุบันจากสายพันธุ์ดังกล่าว และคาดว่าจะได้รับผลในสัปดาห์หน้า
แหล่งที่มาของข่าว
https://www.moneyandbanking.co.th/article/news/vaccine-pfizer-omicron-081264