ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงกว่า 800 จุด หลุดแนว 35,000 จุด ตื่นข่าวไวรัสพันธุ์ใหม่ในแอฟริกาใต้
ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลงกว่า 800 จุด หลุดจากระดับ 35,000 จุด เนื่องจากนักลงทุนตื่นตระหนกเกี่ยวกับข่าวการพบไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ในแอฟริกาใต้ ซึ่งส่งผลให้รัฐบาลอังกฤษและอิสราเอลประกาศระงับเที่ยวบินจากหลายประเทศในทวีปแอฟริกา
ณ เวลา 18.02 น.ตามเวลาไทยในวันนี้ ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลง 846 จุด หรือ -2.37% แตะที่ 34,903 จุด
นักลงทุนพากันวิตกกังวลเกี่ยวกับข่าวการพบไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ในแอฟริกาใต้ที่ชื่อว่า B.1.1.529 ซึ่งเป็นไวรัสที่สามารถหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันได้
ทางด้านรัฐบาลอังกฤษได้ประกาศระงับเที่ยวบินจาก 6 ประเทศในทวีปแอฟริกาเป็นการชั่วคราวซึ่งได้แก่ นามิเบีย, เลโซโท, ซิมบับเว, บอตสวานา, เอสวาตีนี และแอฟริกาใต้
นายซาจิด จาวิด รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของอังกฤษแถลงว่า “อังกฤษจำเป็นต้องใช้มาตรการป้องกันในเวลานี้ โดยนับตั้งแต่ช่วงเที่ยงของวันศุกร์ที่ 26 พ.ย.เป็นต้นไป ทั้ง 6 ประเทศเหล่านี้จะถูกรวมอยู่ในบัญชีรายชื่อสีแดง (Red List) และเที่ยวบินที่มาจาก 6 ประเทศเหล่านี้จะไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าอังกฤษเป็นการชั่วคราว” นายจาวิดกล่าว
ทางด้านรัฐบาลอิสราเอลประกาศระงับเที่ยวบินจาก 7 ประเทศในทวีปแอฟริกาซึ่งได้แก่ นามิเบีย, เลโซโท, ซิมบับเว, บอตสวานา, เอสวาตีนี, โมซัมบิก และแอฟริกาใต้ โดยทำเนียบนายรัฐมนตรีอิสราเอลระบุในแถลงการณ์ว่า “ชาวต่างชาติที่เดินทางมาจาก 7 ประเทศนี้ไม่สามารถเข้าอิสราเอลได้ ส่วนพลเมืองชาวอิสราเอลที่เดินทางกลับมาจากประเทศเหล่านี้ จะต้องกักตัวในโรงแรมเป็นเวลา 7 วัน แม้ว่าได้รับวัคซีนครบโดสแล้วก็ตาม”
นักลงทุนจับตายอดขายของบรรดาบริษัทค้าปลีกในวัน Black Friday (วันศุกร์หลังวันขอบคุณพระเจ้า) เพื่อประเมินแนวโน้มการใช้จ่ายของผู้บริโภค หลังจากที่ก่อนหน้านี้บริษัทค้าปลีกหลายรายได้เปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวังในไตรมาส 3/2564 ซึ่งรวมถึงบริษัทนอร์ดสตรอม ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ของสหรัฐ และบริษัทแก๊ป อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกเครื่องแต่งกายรายใหญ่ของสหรัฐ
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้ปิดทำการซื้อขายเมื่อวานนี้ (25 พ.ย.) เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า ส่วนในวันนี้ตลาดจะเปิดทำการซื้อขายเพียงครึ่งวัน
แหล่งที่มาของข่าว