ขณะที่สายพันธุ์โอมิครอนกำลังระบาดหนักทั้งในยุโรปและสหรัฐฯ ขณะนี้ หลายประเทศในเอเชียยังสามารถควบคุมการแพร่เชื้อได้ค่อนข้างดีโดยอาศัยมาตรการต่างๆ แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขเชื่อว่าภูมิภาคซึ่งมีประชากรมากที่สุดของโลกนี้คงไม่สามารถหลีกเลี่ยงการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ได้ในที่สุด
จนถึงขณะนี้ข้อบังคับการกักตัวอย่างเข้มงวดและการสวมหน้ากากอย่างแพร่หลายดูจะเป็นสองเหตุผลสำคัญที่ช่วยชะลอการระบาดของเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนในเอเชียได้ อย่างไรก็ตามขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อในหลายประเทศเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าในช่วงสองถึงสามเดือนข้างหน้านี้จะเป็นเวลาที่สำคัญ โดยนายแพทย์ Shigeru Omi ที่ปรึกษาด้านการแพทย์ของรัฐบาลญี่ปุ่นบอกว่าเมื่อการระบาดเริ่มแพร่กระจายออกไปจำนวนผู้ติดเชื้อก็จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมากด้วย
ขณะนี้หลายประเทศในเอเชียซึ่งพึ่งพาวัคซีนจากจีนมีความกังวลซ้ำสองเกี่ยวกับประสิทธิผลของวัคซีนดังกล่าว โดยผลการศึกษาในขั้นต้นแสดงว่าถึงแม้วัคซีนเข็มกระตุ้นของ Pfizer, AstraZeneca หรือ Moderna จะช่วยพยุงภูมิต้านทานให้คงอยู่ต่อไปได้แม้จะในระดับที่ลดลงก็ตามแต่การศึกษาของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในฮ่องกงซึ่งยังไม่ได้ตีพิมพ์เผยแพร่พบว่าวัคซีน Sinovac นั้นไม่ช่วยสร้างระดับแอนติบอดีอย่างเพียงพอที่จะป้องกันสายพันธุ์โอมิครอนได้แม้จะได้รับเข็มกระตุ้นก็ตาม บริษัท Sinovac ของจีนไม่ได้ให้ความเห็นใดๆ เกี่ยวกับผลการศึกษาเรื่องนี้และเจ้าหน้าที่รัฐบาลจีนก็ยืนยันว่าวัคซีนของตนนั้นใช้ได้ผลดี
จนถึงขณะนี้ประเทศไทยรายงานผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนแล้วกว่า 700 คน ส่วนเกาหลีใต้ซึ่งในเดือนนี้ได้กลับไปใช้มาตรการรักษาระยะห่างอย่างเข้มงวด คือห้ามการรวมกลุ่มเกินสี่คนและสั่งปิดร้านอาหารต่างๆ ที่เวลาสามทุ่มมีผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนกว่า 500 คนและกว่า 300 คนในญี่ปุ่นด้วย
ก่อนหน้านี้ญี่ปุ่นสามารถชะลอการระบาดของสายพันธุ์ใหม่นี้ได้ประมาณหนึ่งเดือนจากมาตรการห้ามคนต่างชาติเข้าประเทศ รวมทั้งใช้มาตรการแยกผู้โดยสารทุกคนบนเที่ยวบินหากพบว่ามีใครบนเครื่องบินลำนั้นมีผลตรวจเป็นบวก แต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วญี่ปุ่นก็พบผู้ติดเชื้อโอมิครอนในประเทศกลุ่มแรกที่นครโอซากาแล้วนครเกียวโต เป็นผลให้ผู้เชี่ยวชาญเตือนให้รัฐบาลเร่งเตรียมการตรวจหาเชื้อ ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น และเตรียมเตียงในโรงพยาบาลให้พร้อม
ส่วนฟิลิปปินส์ได้พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนเพียงแค่สี่รายจนถึงขณะนี้ และโรงพยาบาลบางแห่งได้เริ่มยกเลิกหรือรื้อถอนหอผู้ป่วยโควิดไปแล้ว ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์เตือนว่าอาจเป็นการเร่งทำการก่อนเวลาอันสมควร
แต่ที่จีนซึ่งใช้นโยบายคุมเข้มโควิดให้เป็นศูนย์นั้นมีรายงานผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนอย่างน้อยแปดคนในขณะนี้ จีนได้ใช้มาตรการกักตัวผู้เดินทางจากต่างประเทศอย่างเข้มงวดที่สุดในเอเชียคือหลายสัปดาห์ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกฎของรัฐบาลในท้องถิ่นนั้นแต่ส่วนใหญ่แล้วคือสามสัปดาห์
และขณะที่กีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่จีนเป็นเจ้าภาพจะเริ่มขึ้นต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้เรื่องที่ว่านโยบายคุมโควิด-19 ให้เป็นศูนย์จะถูกนำมาใช้อย่างไรระหว่างการแข่งกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวก็ยังเป็นคำถามที่สำคัญ แต่อย่างน้อยที่สุดนักกีฬาและผู้ไปเยือนจะไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากพื้นที่โอลิมปิก และบุคคลอื่นซึ่งเข้าร่วมงาน เช่น เจ้าหน้าที่ ผู้สื่อข่าว รวมทั้งสต๊าฟของสถานที่จัดการแข่งขันจะต้องเข้ารับการตรวจเชื้อโควิดเป็นประจำทุกวัน
แหล่งข้อมูลของข่าว
https://www.voathai.com/a/asia-omicron-surge-inevitable-ct/6374780.html