เจมส์ โฮเวลล์อ้างว่าตนเองมีบิตคอยน์อยู่ในครอบครองมูลค่ากว่า 15,000 ล้านบาท แต่เขากลับโยนฮาร์ดไดรฟ์ที่มีรหัสเข้าถึงบัญชีบิตคอยน์ของตัวเองทิ้งไปโดยไม่รู้ตัว
เจมส์ โฮเวลล์ ชายหนุ่มชาวอังกฤษวัย 36 ปี อดีตพนักงานแผนไอทีเริ่มขุดเงินคริปโตตั้งแต่ก่อนหน้าที่สกุลเงินดิจิทัลเหล่านี้จะมีมูลค่ามหาศาลเช่นในปัจจุบัน แต่แล้วเขาก็เผลอโยนฮาร์ดไดรฟ์ที่เก็บรหัสกุญแจเข้าถึงสกุลเงินดิจิทัลที่ตัวเองขุดไว้ทิ้งไประหว่างเก็บกวาดออฟฟิศของตัวเองเมื่อ 8 ปีที่แล้ว
“ผมเจอแต่ฮาร์ดไดรฟ์ขนาด 20 GB ที่ว่างเปล่าในลิ้นชักโต๊ะของตัวเอง แทนที่จะเป็นบิตคอยน์หลายพันเหรียญ” โฮเวลล์ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีบีเอส เขาประเมินว่าบิตคอยน์ที่เขาทำหายน่าจะมีมูลค่าประมาณ 340 ล้านปอนด์ หรือมากกว่า 15,000 ล้านบาท
นับตั้งแต่รู้ตัวว่าทำฮาร์ดไดรฟ์หาย เขาก็เริ่มต้นล็อบบี้รัฐบาลท้องถิ่นของเมืองนิวพอร์ตในแคว้นเวลส์ ซึ่งมีบ่อทิ้งขยะอิเล็กทรอกนิกส์ขนาดใหญ่ และเป็นที่ที่โฮเวลล์คาดว่าฮาร์ดไดรฟ์ของเขาน่าจะไปจบลงที่นั่น
“มีตั้งหลายบริษัทในโลกนี้ที่ขุดลึกลงไปถึงก้นมหาสมุทรเพื่อหาสมบัติ การขุดบ่อขยะนั้นเห็นได้ชัดว่าง่ายกว่าขุดก้นทะเลตั้งเยอะ” โฮเวลล์กล่าว
เขากล่าวว่าตนได้ติดต่อผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลก ระหว่างที่พยายามจะกอบกู้ขุมทรัพย์บิตคอยน์ของเขาคืนมา นอกจากนี้ยังเสนอส่วนแบ่งจำนวน 1 ใน 4 ของมูลค่าบิตคอยน์ในครอบครองแก่สภาเมืองนิวพอร์ต ถ้าหากเขาสามารถหาฮาร์ดไดรฟ์จนเจอได้ในที่สุด
แต่ทางการของเมืองนิวพอร์ตก็ยังคงปฏิเสธคำขอขุดบ่อขยะของเขา โดยอ้างเหตุผลเรื่องการทำลายสิ่งแวดล้อม และอ้างว่าการอนุญาตให้ขุดบ่อขยะอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เจ้าหน้าที่ทางการของเมืองนิวพอร์ต “ไม่สามารถให้บริการประชาชนได้อย่างทั่วถึง” นอกจากนี้ ยังมีความกังวลด้านค่าใช้จ่ายในการขุดค้นซึ่งคิดเป็นจำนวนเงินหลายล้านปอนด์ ซึ่งไม่มีอะไรรับรองได้ว่า โฮเวลล์จะสามารถค้นหาของที่ต้องการได้จนพบ และถ้าเป็นในกรณีนั้น ก็ต้องมีคนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายโดยที่ทางโฮเวลล์ก็ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนให้
กระนั้น โฮเวลล์ก็ยังคงมุ่งมั่นที่ค้นหาฮาร์ดไดรฟ์ของตัวเองต่อไป
“ผมจะไม่ยอมแพ้หรอก เพราะก็เหมือนที่ผมพูดไว้ว่ามันคือลอตเตอรี่ถูกรางวัลที่ผมทำหาย” เขากล่าว “ลอตเตอรี่อาจเสื่อมสภาพได้ แต่ฮาร์ดไดรฟ์ไม่ใช่ มันไม่หายไปไหนหรอก”
ก่อนหน้านี้ โฮเวลล์ได้ติดต่อบริษัทออนแทร็ค ซึ่งเป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญการกู้ข้อมูลและเคยมีประสบการณ์ร่วมงานกับองค์กรนาซ่าในการกอบกู้ฮาร์ดไดรฟ์ที่เสียหายหนักจนแยกส่วนเป็นชิ้น ๆ ของกระสวยอวกาศโคลัมเบีย เพื่อขอความช่วยเหลือในการค้นหาขุมทรัพย์บิตคอยน์ที่สูญหายของเขา ถ้าหากฮาร์ดไดรฟ์ของโฮเวลล์ยังมีส่วนที่ใช้การได้ บริษัทออนแทร็คเชื่อว่ามีโอกาสสูงราว 80-90 เปอร์เซ็นต์ที่จะสามารถกอบกู้ขุมทรัพย์บิตคอยน์ของเขาคืนมาได้
แหล่งที่มาของข่าว