- การฟื้นตัวของ EUR/USD ดูเหมือนจะหยุดชะงักในบริเวณ 1.0600 📉
- ปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ที่กลับมาเด่นอีกครั้งสนับสนุนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ 💵
- ดัชนี HICP สุดท้ายในยูโรโซนแตะเป้าหมายของ ECB ในเดือนตุลาคม 🎯
EUR/USD ประสบความยากลำบากในการรักษาแรงขาขึ้นเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา หลังจากพยายามล้มเหลวในการทะลุแนวต้าน 1.0600 แม้จะปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นเวลา 2 วันก่อนหน้านี้ก็ตาม ✋ ความอ่อนตัวในราคาสปอตเกิดขึ้นในขณะที่ดอลลาร์สหรัฐได้แรงสนับสนุนจากสถานการณ์การลงทุนที่เน้นความปลอดภัยและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น 🛡️
นโยบายการเงินและผลกระทบต่อดอลลาร์
เมื่อไม่นานมานี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่กรอบเป้าหมาย 4.75%-5.00% 🏦 การเคลื่อนไหวนี้สอดคล้องกับคาดการณ์ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อใกล้เป้าหมาย 2% มากขึ้น 📊 อย่างไรก็ตาม ตลาดแรงงานเริ่มส่งสัญญาณชะลอตัว แม้การว่างงานยังคงอยู่ในระดับต่ำ 🚧
ในถ้อยแถลงเดือนพฤศจิกายน Jerome Powell ประธาน Fed ชี้แจงว่า Fed ยังคงไม่เร่งปรับลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมในเร็วๆ นี้ 🕊️ ท่าทีระมัดระวังนี้ทำให้ความคาดหวังเรื่องการลดดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมลดลง และส่งผลให้ดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้นอีกครั้ง 🔺
สถานการณ์ฝั่งยุโรปและแนวโน้มอนาคต
ในขณะเดียวกัน ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้ลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลงเหลือ 3.25% ในเดือนตุลาคม และปรับท่าทีเป็นการรอดูข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจครั้งต่อไป 🔄
ในอนาคต นโยบายการค้าจากรัฐบาล Trump เช่น การกำหนดภาษีสินค้าจากยุโรปหรือจีน อาจกระตุ้นแรงกดดันเงินเฟ้อในสหรัฐ 📈 ซึ่งหาก Fed มีท่าทีระมัดระวังหรือคงนโยบายแบบเข้มงวดต่อไป ดอลลาร์สหรัฐอาจได้รับแรงสนับสนุนเพิ่มเติม 💪
มุมมองทางเทคนิคสำหรับ EUR/USD
- การร่วงลงเพิ่มเติมอาจพา EUR/USD สู่ระดับต่ำสุดของปี 2024 ที่ 1.0495 (14 พฤศจิกายน) และระดับต่ำสุดของปี 2023 ที่ 1.0448 (3 ตุลาคม) 📉
- แนวต้านสำคัญอยู่ที่ค่าเฉลี่ย 200 วัน (SMA) ที่ 1.0862, ค่าเฉลี่ย 55 วัน (SMA) ที่ 1.0920 และจุดสูงสุดของเดือนพฤศจิกายนที่ 1.0936 (6 พฤศจิกายน) 📊
- RSI (Relative Strength Index) ล่าสุดปรับขึ้นสู่ระดับประมาณ 52 ซึ่งบ่งบอกถึงโอกาสการฟื้นตัวในระยะสั้น 🕵️
#EURUSD #แนวโน้มราคา #การลงทุน #Forex #ข่าวเศรษฐกิจ #ดอลลาร์สหรัฐ #ธนาคารกลาง