นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ ซึ่งมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ในงานเสวนา Thomas Laubach Research Conference ว่าด้วยนโยบายการเงิน ซึ่งเฟดจะจัดขึ้นที่กรุงวอชิงตัน ดีซี
เจ้าหน้าที่เฟดหลายรายจะเข้าร่วมงานเสวนาดังกล่าว ซึ่งรวมถึงนายเบน เบอร์นันเก้ อดีตประธานเฟด
ทั้งนี้ งานเสวนาดังกล่าวจะเริ่มขึ้นในเวลา 11.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือคืนนี้เวลา 22.00 น.ตามเวลาไทย
นักลงทุนเพิ่มคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนมิ.ย. หลังจากที่เจ้าหน้าที่เฟดหลายรายต่างกล่าวสนับสนุนการเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 43.7% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 13-14 มิ.ย. หลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วให้น้ำหนักเพียง 15.5%
ทั้งนี้ นางลอรี โลแกน ประธานเฟดสาขาดัลลัส กล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดไม่ได้สนับสนุนให้เฟดชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย.
นายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟด สาขาแอตแลนตา กล่าวว่า เขาคาดว่าเฟดจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ เนื่องจากเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะปรับตัวอยู่ในระดับสูงนานกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
“นโยบายที่เหมาะสมคือการเฝ้ารอเพื่อดูว่าเศรษฐกิจได้ชะลอตัวมากน้อยเพียงใดจากการดำเนินนโยบายของเรา” นายบอสติกกล่าว
นายบอสติกกล่าวว่า การชะลอตัวของเงินเฟ้อในช่วงที่ผ่านมาถือว่าน่าพึงพอใจ แต่เขายังคงสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป มากกว่าที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย
นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟด สาขานิวยอร์ก กล่าวว่า เฟดสามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หากเงินเฟ้อไม่ได้ปรับตัวลง
“เราไม่เคยบอกว่าได้เสร็จสิ้นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว โดยเราจะต้องแน่ใจว่าเราได้บรรลุเป้าหมายแล้ว ซึ่งเราจะทำการประเมินสิ่งที่เกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจ และทำการตัดสินใจโดยขึ้นอยู่กับข้อมูลที่ได้รับ” นายวิลเลียมส์กล่าว
นายวิลเลียมส์ระบุว่า เขายังมองไม่เห็นเหตุผลในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ อย่างไรก็ดี เขาจะนำวิกฤตในภาคธนาคาร และผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อการขยายตัว การจ้างงานและเงินเฟ้อ เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ใช้ประกอบการพิจารณาแนวโน้มนโยบายอัตราดอกเบี้ย
แหล่งที่มาของข่าว..