บริษัทคริปโทจีนรุกอาเซียน-ตั้งสนง.ใหญ่ในสิงคโปร์
“หั่วปี้” บริษัทซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีจีน เลือกสิงคโปร์เป็นสำนักงานใหญ่ในเอเชีย หวังใช้สิงคโปร์เป็นสปริงบอร์ดขยายการลงทุนสกุลเงินคริปโต ขณะ“แจ็ค ดอร์ซีย์”ซีอีโอทวิตเตอร์ที่เพิ่งลาออกจากตำแหน่งมีเวลาเต็มที่พัฒนาระบบเหมืองบิตคอยน์ หวังเปิดทางคนทั่วไปเข้าถึงได้ง่ายเหมือนเสียบปลั๊ก
“ตู้ จวิน” ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทหั่วปี้ กรุ๊ป (Huobi Group) ซึ่งเป็นผู้ประกอบการตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยนคริปโทเคอร์เรนซีรายใหญ่ที่สุดของประเทศจีน เปิดเผยว่า หั่วปี้ตัดสินใจเลือกสิงคโปร์เป็นสำนักงานใหญ่ในภูมิภาคเอเชีย และจะเลือกอีกสถานที่หนึ่งเพื่อให้เป็นสำนักงานใหญ่ในทวีปยุโรป
ตู้ เปิดเผยกับสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า สิงคโปร์จะกลายเป็นฐานแห่งใหม่ของบริษัท หลังจากที่บริษัทเปลี่ยนมาให้ความสนใจในตลาดนอกประเทศจีนเมื่อเร็ว ๆ นี้
ตู้ ประจำอยู่ในสิงคโปร์นับตั้งแต่กลับมาทำงานกับหั่วปี้เมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา และหั่วปี้กำลังวางแผนจัดตั้งสำนักงานใหญ่อีกแห่งหนึ่งในยุโรปในปี 2566 โดยขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างตัดสินใจว่าจะเลือกฝรั่งเศสหรืออังกฤษดี
แม้ว่าหั่วปี้จะมีพนักงานคอยดูแลธุรกิจตลาดซื้อขายคริปโทฯในสิงคโปร์มานานหลายปีแล้ว แต่การจัดตั้งสำนักงานใหญ่อย่างเป็นทางการในสิงคโปร์ถือเป็นการส่งสัญญาณการแยกตัวออกมาจากประเทศจีนมากยิ่งขึ้น
หลังจีนสั่งห้ามการทำธุรกรรมและการให้บริการด้านคริปโทฯทุกประเภทในจีนแผ่นดินใหญ่เมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา และหั่วปี้ ซึ่งก่อตั้งขึ้นในจีนในปี 2556 เปิดเผยว่า จะลบผู้ใช้งานในจีนทั้งหมดออกจากระบบภายในสิ้นปีนี้
นอกจากนี้ ตู้ยังระบุด้วยว่า ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถือเป็นตลาดที่มีความน่าดึงดูดใจอย่างยิ่ง เนื่องจากตัวเลขผู้ซื้อขายคริปโทฯเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่าในเดือนที่ผ่านมา
เมื่อเดือนก.ย. จีนเปิดปฏิบัติการกวาดล้างอุตสาหกรรมคริปโทฯ โดยธนาคารกลางจีน (พีบีโอซี) ออกแถลงการณ์ว่า การทำธุรกรรมทางการเงินทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งรวมถึงบิตคอยน์ ถือเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย และจะถูกกวาดล้างอย่างหนัก
การเคลื่อนไหวของหั่วปี้ มีขึ้นในช่วงที่ตลาดคริปโทฯมีการเคลื่อนไหวอย่างคึกคัก แม้แต่วันที่พบการระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่“โอไมครอน”ที่สร้างความวิตกแก่ตลาดทุนทั่วโลก ราคาบิตคอยน์ก็เคลื่อนไหวในแดนลบด้วย
ล่าสุด มีรายงานข่าวว่า การทำเหมืองคริปโทฯที่กำลังเป็นที่เฟื่องฟูในคาซัคสถาน ซึ่งมีทั้งเหมืองถูกกฎหมายและผิดกฎหมายทั่วประเทศ ส่งผลให้เกิดปัญหาไฟฟ้าไม่พอใช้ และทำให้ไฟดับในหลายพื้นที่
คาซัคสถาน กำลังเจอปัญหาผลิตไฟฟ้าไม่เพียงต่อการใช้งานทั่วประเทศ โดยสาเหตุหลักมาจากการขุดเหมืองคริปโท ซึ่งต้องใช้พลังงานไฟฟ้าจำนวนมหาศาล และด้วยผลตอบแทนที่คุ้มค่า จึงทำให้มีคนมาลงทุนทำเหมืองคริปโทฯกันมากขึ้น จนทำให้เกิดปัญหาไฟฟ้าไม่พอใช้ในหลายพื้นที่
กระทรวงพลังงานของคาซัคสถานเปิดเผยว่า ในปีนี้ มีการใช้พลังงานเพิ่มขึ้นถึง 8% จากเดิมที่จะเพิ่มแค่ปีละ 1-2% ซึ่งการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น ทำให้เกิดปัญหาไฟฟ้าดับในหกภูมิภาค ตั้งแต่เดือนต.ค.ที่ผ่านมา
เคอีจีโอไอซี(KEGOIC) ผู้ผลิตไฟฟ้าของคาซัคสถาน บอกว่า จะแก้ไขปัญหาด้วยการลดสัดส่วนพลังงานไฟฟ้าที่ส่งไปยังเหมืองคริปโทฯ และหากเกิดปัญหาไฟฟ้าไม่พอใช้อีก จะตัดไฟในส่วนที่ส่งไปให้เหมืองคริปโทฯก่อน
คาซัคสถาน มีเหมืองขุดคริปโทฯทั้งแบบถูกกฎหมายและผิดกฎหมายจำนวนมาก จึงทำให้มีการใช้พลังงานไฟฟ้าที่สูงเกินกว่าที่ทางการคาดเอาไว้ ซึ่งรัฐบาลของคาซัคสถานกำลังขอให้ทางรัสเซียช่วยผลิตไฟฟ้าและส่งเข้ามายังคาซัคสถานเพิ่มเติม
นอกจากนี้ สำนักข่าวต่างประเทศหลายสำนักรายงานว่าตลาดคริปโทฯน่าจะมีสีสันและคึกคักมากขึ้น เมื่อ”แจ็ค ดอร์ซีย์” ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร(ซีอีโอ)ทวิตเตอร์ประกาศลาออกจากทวิตเตอร์ เพราะเขาจะทุ่มเทเวลาทั้งหมดไปกับแผนลงทุนในเหมืองบิตคอยน์ ซึ่งเป็นไปตามเจตน์จำนงค์ก่อนหน้านี้ของเขาที่บอกว่าจะทำให้อุตสาหกรรมขุดเหรียญคริปโทฯเป็นเรื่องง่ายดายเหมือนการเสียบปลั๊ก
ดอร์ซีย์ ซึ่งเป็นซีอีโอบริษัทสแควร์ กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า กำลังสร้างระบบเหมืองขุดบิตคอยน์ (BTC) สำหรับบุคคลทั่วไปและธุรกิจทั่วโลก โดยอิงกับคัสตอมซิลิคอนและระบบโอเพนซอร์ส
แผนการใหม่นี้จะทำให้สแควร์มีโปรเจ็กต์บิตคอยน์เพิ่มขึ้น นอกเหนือจากการสร้างแพลตฟอร์มสำหรับผู้พัฒนา และฮาร์ดแวร์วอลเล็ตสำหรับคริปโทฯ ซึ่งเป้าหมายของดอร์ซีย์คือ ทำให้การขุดคริปโทฯ หรือกระบวนการสร้างเหรียญบิตคอยน์ใหม่ด้วยการแก้ปัญหาการคำนวณอันซับซ้อน เป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น
เช่นเดียวกับวิสัยทัศน์ดั้งเดิมของสแควร์ ในการทำให้ธุรกิจขนาดเล็กและผู้ประกอบการอิสระรับการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตได้ง่ายขึ้น ซึ่งดอร์ซีย์บอกว่า เหมืองขุดบิตคอยน์ที่สแควร์เล็งพัฒนาจะง่ายดายเหมือนเสียบปลั๊กอุปกรณ์เข้ากับแหล่งพลังงาน
ทุกวันนี้ อุตสาหกรรมเหมืองบิตคอยน์ถูกควบคุมโดยผู้เล่นรายใหญ่ที่มีทุนซื้อ ASIC หรืออุปกรณ์ขุดเหรียญนับหมื่นเครื่อง ขณะที่ไม่มีมาตรการจูงใจมากพอสำหรับคนทั่วไปในการเอาชนะความซับซ้อนในการบริหารเหมืองขุดเหรียญเอง
ดอร์ซีย์ยังบอกด้วยว่า การขุดเหมืองควรมีการกระจายศูนย์เพื่อให้เครือข่ายบิตคอยน์มีความยืดหยุ่นมากขึ้น
เมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา ดอร์ซีย์ร่วมทุนกับศิลปินแรปเปอร์ชื่อดัง“เจย์-ซี”วงเงินบิตคอยน์ 500 เหรียญตั้งกองทุน ‘₿trust’ เพื่อพัฒนาการใช้งานบิตคอยน์ในแอฟริกาและอินเดียเป็นหลัก พร้อมตั้งเป้าใหญ่ไว้ที่การพัฒนาให้บิตคอยน์กลายเป็นเงินสกุลหลักของโลกอินเทอร์เน็ต
แหล่งที่มาของข่าว