รัฐบาลสหรัฐและรัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ทั้งสองประเทศบรรลุข้อตกลงร่วมกันในการยกเว้นภาษีสำหรับการนำเข้าเหล็กกล้าจากญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2561 โดยเป็นการร่วมมือกันระหว่างญี่ปุ่นและสหรัฐเพื่อรับมือกับนโยบายการค้าของจีนที่ส่งผลกระทบเชิงลบต่ออุตสาหกรรมเหล็กกล้า
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวในหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งระบุว่า สหรัฐเตรียมประกาศงดจัดเก็บภาษี 25% สำหรับการนำเข้าเหล็กกล้าจากญี่ปุ่นสูงสุดถึง 1.25 ล้านตันต่อปี ขณะที่การนำเข้าเหล็กกล้าส่วนที่เกินโควตาจะยังคงมีการเก็บภาษี โดยให้เริ่มมีผลวันที่ 1 เมษายนเป็นต้นไป
ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเผยว่า ในปี 2560 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายก่อนที่จะมีการเก็บภาษี สหรัฐนำเข้าเหล็กกล้าจากญี่ปุ่นรวม 1.7 ล้านตัน แต่ตัวเลขนี้ลดลงแตะ 1.1 ล้านตันในปี 2562
“นโยบายที่เราประกาศในวันนี้เป็นการต่อยอดจากข้อตกลงของเรากับสหภาพยุโรป ซึ่งจะช่วยให้เรากลับมาสานความสัมพันธ์กับพันธมิตรทั่วโลกได้ ในขณะที่ต้องต่อสู้กับนโยบายการค้าที่ไม่เป็นธรรมของจีน” นางจีนา ไรมอนโด รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐกล่าวในการแถลงข่าว
เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐระบุว่า สหรัฐและสหภาพยุโรปมุ่งขยายขอบเขตข้อตกลงไปสู่ทั่วโลก เพื่อจัดการกับปัญหากำลังการผลิตส่วนเกินนอกตลาด และลงโทษประเทศที่ไม่ทำตามเป้าหมายคาร์บอนต่ำสำหรับอุตสาหกรรมเหล็กกล้าและอะลูมิเนียม อย่างไรก็ตาม ญี่ปุ่นยังไม่ขอเข้าร่วมกระบวนการดังกล่าวในขณะนี้
แหล่งที่มาของข่าว