นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐเตือนว่า หากสภาคองเกรสไม่ปรับเพิ่มเพดานหนี้จะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลงอย่างรุนแรง พร้อมกับย้ำกว่า กระทรวงการคลังอาจจะไม่สามารชำระหนี้ได้ตามกำหนดในเดือนมิ.ย.
“การคาดการณ์ของเราในขณะนี้คือต้นเดือนมิ.ย. ซึ่งวันที่เราคาดว่าจะไม่สามารถชำระหนี้ได้ เว้นแต่ว่าสภาครองเกรสจะปรับเพิ่มเพดานหนี้ และนั่นคือสิ่งที่ฉันเรียกร้องให้สภาคองเกรสทำ” นายเยลเลนให้สัมภาษณ์ในรายการ “This Week” ของสถานีโทรทัศน์ ABC ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (7 พ.ค.)
นางเยลเลนกล่าวว่า ก่อนหน้านี้กระทรวงการคลังได้ใช้มาตรการพิเศษเพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ และไม่ใช่สิ่งที่กระทรวงการคลังจะดำเนินการต่อไปได้ ซึ่งเป็นหน้าที่ของสภาคองเกรสที่จะต้องดำเนินการเพื่อหลีกเลี่ยงหายนะทางเศรษฐกิจ
“หลายฝ่ายต่างก็เห็นด้วยว่าจะเกิดความวุ่นวายทางการเงินและเศรษฐกิจ หากไม่มีการปรับเพิ่มเพดานหนี้” นางเยลเลน กล่าว
ด้านฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐพยายามหาหนทางเพื่อเพิ่มหรือระงับเพดานหนี้ ซึ่งจะทำให้สหรัฐสามารถชำระหนี้ได้ทันเวลา แต่ขณะนี้พวกเขากำลังเผชิญทางตัน และมีโอกาสสูงที่จะเกิดการผิดนัดชำระหนี้
ความเคลื่อนไหวของนางเยลเลนถือเป็นการเน้นย้ำคำเตือนที่ว่า สหรัฐอาจจะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ภายในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ ซึ่งเร็วกว่าที่รัฐบาลและนักวิเคราะห์ในตลาดวอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้
นางเยลเลนได้ส่งจดหมายถึงนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เมื่อวันจันทร์ (1 พ.ค.) โดยเตือนว่า ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับรายได้จากการจัดเก็บภาษีของรัฐบาลนั้น ทำให้กระทรวงการคลังสามารถประเมินได้ว่าทางกระทรวงอาจจะผิดนัดชำระหนี้ตามพันธกรณีทางกฎหมายภายในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ หากสภาคองเกรสไม่ปรับเพิ่มเพดานหนี้หรือระงับเพดานหนี้ก่อนเส้นตายในวันดังกล่าว
การคาดการณ์ดังกล่าวของนางเยลเลนนั้น เร็วกว่าที่นักวิเคราะห์ในตลาดวอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้ โดยโกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ล่าสุดว่ารัฐบาลสหรัฐจะผิดนัดชำระหนี้ในช่วงปลายเดือนก.ค.
ทั้งนี้ เพดานหนี้คือจำนวนเงินทั้งหมดที่รัฐบาลสหรัฐได้รับอนุญาตให้ทำการกู้ยืมเพื่อให้รัฐบาลสามารถชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย ซึ่งรวมถึงค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับสวัสดิการด้านประกันสังคมและด้านสุขภาพ, ดอกเบี้ยตราสารหนี้ของรัฐบาล และการใช้จ่ายอื่น ๆ
แหล่งที่มาของข่าว…