#การเติบโตของราคาบ้านในสหรัฐฯปี 2023: ตามเมือง

1. ดีทรอยต์: +8.1%
2. แซนดิเอโก: +7.2%
3. นิวยอร์ก: +7.0%
4. ชิคาโก: +6.9%
5. ไมอามี: +6.7%
6. บอสตัน: +6.6%
7. คลีฟแลนด์: +6.4%
8. ลอสแอนเจลิส: +6.1%
9. ชาร์ลอตต์: +6.0%
10. แอตแลนตา: +5.3%
11. วอชิงตัน: +3.4%
12. มินนีแอโพลิส: +2.8%
13. แทมปา: +2.3%
14. เดนเวอร์: +1.6%
15. ซานฟรานซิสโก: +1.6%

จากข้อมูลของ Case-Shiller, 20 เมืองใหญ่สุดของสหรัฐฯ มีราคาบ้านเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 9 ถึงระดับสูงสุดที่ไม่เคยมีมาก่อน #CaseShiller

ราคาบ้านเฉลี่ยในสหรัฐฯเพิ่มขึ้น 4.9% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่ธันวาคม 2022 #เพิ่มขึ้นสูงสุด

ขาดแคลนอุปทานถูกกล่าวว่าเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก #ขาดแคลนอุปทาน

จากข้อมูลนี้ สะท้อนให้เห็นว่า:

• การเติบโตของราคาบ้านแข็งแกร่งในหลายเมืองใหญ่
• แม้จะมีการลดอัตราดอกเบี้ยจำนอง, ความสามารถในการจ่ายยังคงเป็นปัญหา
• ราคายังไม่ได้สะท้อนถึงการลดลงของดอกเบี้ยจำนองล่าสุด

อัตราดอกเบี้ยจำนอง 30 ปี ลดลงมากกว่า 100 bps จากจุดสูงสุดล่าสุด #ดอกเบี้ยจำนองลดลง

การเข้าถึงบ้านที่อยู่อาศัยยังคงแย่ลง แม้ว่าจะคาดการณ์การลดอัตราดอกเบี้ย #ความสามารถในการจ่ายลดลง

สิ่งนี้ทำให้เกิดคำถามเรื่องฟองสบู่ทางอสังหาริมทรัพย์ และความต้องการที่ยังคงเพิ่มขึ้น #ฟองสบู่อสังหาฯ?