รัฐบาลอินเดียกำลังวางแผนออกกฎหมายใหม่เพื่อห้ามเอกชนทำการซื้อขายเงินคริปโต ก่อให้เกิดการเทขายอย่างหนักในตลาดสกุลเงินดิจิทัลของประเทศ เนื่องจากนักลงทุนพยายามหาทางเอาตัวรอด แม้ว่าจะต้องสูญเสียผลกำไร
ตามวาระทางกฎหมายที่เตรียมนำเสนอในการประชุมรัฐสภาซึ่งกำลังจะเริ่มในเดือนนี้ ที่เผยแพร่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ระบุว่ารัฐบาลอินเดียจะอนุญาตเฉพาะสกุลเงินดิจิทัลบางประเภทเท่านั้นให้สามารถโปรโมตเทคโนโลยีพื้นฐานและการใช้งาน
หากร่างกฎหมายนี้ผ่าน จะส่งผลให้พลเมืองอินเดียไม่สามารถทำธุรกรรมเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลส่วนใหญ่ได้
ไนมิช สังข์วี นักลงทุนเงินคริปโตกล่าวว่า หลังจากมีข่าวเรื่องกฎหมายใหม่ออกมาเมื่อวันพุธ มูลค่าของสกุลเงินของบริษัทเทเทอร์ (USDT) ก็ลดลง 25% เหลือไม่ถึง 60 รูปี (26.86 บาท) ต่อดอลลาร์
นักลงทุนอีกรายกล่าวว่ามูลค่าพอร์ตของเขาลดลงเหลือประมาณ 22,000 รูปี (9,856 บาท) จาก 34,000 รูปี (15,328 บาท) ในวันอังคาร อันเป็นผลมาจากการเทขายเงินดิจิทัลอย่างหนักของนักลงทุน
“ผมกำลังพิจารณาว่าจะขายไปเสีย เพราะอนาคตไม่ชัดเจน” นักลงทุนที่ขอไม่เปิดเผยชื่อเนื่องจากข้อมูลมีความละเอียดอ่อนกล่าว
กลุ่มผู้ค้าสกุลเงินดิจิทัลกล่าวว่า บริษัทแลกเปลี่ยนสกุลเงินหลายแห่งกำลังเผชิญปัญหาเรื่องการฝากและถอนเงิน เนื่องจากมีการซื้อขายเงินดิจิทัลในปริมาณสูง
ก่อนหน้านี้ WazirX ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทแลกเปลี่ยนเงินคริปโตที่ใหญ่ที่สุดของอินเดียโพสต์บนทวิตเตอร์ว่า กำลังตรวจสอบรายงานที่แจ้งว่าผู้ใช้ประสบปัญหาความความล่าช้าในแอพและเว็บไซต์ และภายหลังแจ้งว่าปัญหาได้รับการแก้ไขแล้ว
ตามการประมาณการในแวดวง อินเดียมีนักลงทุนกับสกุลเงินดิจิทัลประมาณ 15-20 ล้านคน โดยมีการถือครองเงินคริปโตทั้งหมดประมาณ 400,000 ล้านรูปี แต่ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับฐานผู้ใช้ระบบและการถือครองสกุลเงินดิจิทัลอย่างเป็นทางการ
แหล่งที่มาของข่าว เดลินิวส์ออนไลน์