ภาคเคมีภัณฑ์ของเยอรมนี, ซึ่งเป็นภาคส่วนใหญ่ที่สุดในยุโรป, กำลังรับผลกระทบจากวิกฤตการขนส่งที่เกิดจากสถานการณ์ในทะเลแดง. ส่งผลให้เกิดปัญหาในห่วงโซ่อุปทานที่ล่าช้า, ทำให้หลายบริษัทต้องควบคุมอัตราการผลิต. 📉🔗
รอยเตอร์รายงานว่า การนำเข้าสินค้าจากเอเชียไปยังยุโรป, ตั้งแต่ชิ้นส่วนรถยนต์, เครื่องมือวิศวกรรม, เคมีภัณฑ์, และของเล่น, ต้องใช้เวลาขนส่งเพิ่มขึ้นเนื่องจากการเปลี่ยนเส้นทางเดินเรือผ่านทวีปแอฟริกา เพื่อหลีกเลี่ยงน่านน้ำทะเลแดงและคลองสุเอซ, ซึ่งประสบปัญหาจากการโจมตีของกลุ่มฮูตีในเยเมน. 🌍🔥
เยอรมนีคุ้นเคยกับปัญหาห่วงโซ่อุปทานจากผลพวงของ COVID-19 และสงครามยูเครน, แต่ผลกระทบจากการลดลงของการขนส่งในทะเลแดงเริ่มส่งผลจริงๆ แล้ว. โรงงานของเทสลาในกรุงเบอร์ลินได้รับผลกระทบอย่างมาก. 🏭🚗
เยอรมนีนั้นพึ่งพาเอเชียในการนำเข้าจากนอกยุโรปราว 1 ใน 3, โดยมียอดขายปีละราว 2.6 แสนล้านยูโร (2.82 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ). 💰🌏
นางมาร์ตินา ไนท์สวอนเกอร์ จากบริษัท Gechem GmbH & Co KG กล่าวว่า บริษัทกำลังทบทวนระบบการทำงาน 3 กะ, และผลพวงจากการขนส่งที่ลดลงอาจเป็นปัญหาไปจนถึงช่วงครึ่งแรกของปี 2567. 🕒📦
อีโวนิค (Evonik) บริษัทผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษรายใหญ่ระบุว่า บริษัทได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนเส้นทางเดินเรือและการเดินทางล่าช้า, และกำลังหาวิธีบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้น. 🚢🔁
#วิกฤตทะเลแดง #เยอรมนี #ภาคเคมีภัณฑ์ #ห่วงโซ่อุปทาน #เศรษฐกิจโลก 🌊🇩🇪🧪🔗🌐📉🔍
แหล่งที่มา RYT9