รายงาน: ‘เฟด’ ชะลอขึ้นดอกเบี้ย ? หลังจากที่ได้เพียรพยายามโจมตีธนาคารกลางสหรัฐมาเป็นเวลาหลายเดือนเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ย ความพยายามของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจใกล้จะประสบความสำเร็จเสียที โดยในขณะนี้เริ่มมีวี่แววมากขึ้นว่าเฟดอาจจะชะลอขึ้นดอกเบี้ย
มีรายงานจากวอลล์สตรีท เจอร์นัล เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า ธนาคารกลางสหรัฐกำลังพิจารณาว่าจะส่งสัญญาณว่าจะรอดูสถานการณ์ที่จะขึ้นดอกเบี้ยเมื่อมีการประชุมในเดือนนี้หรือไม่ และเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐไม่รู้ว่าจะเคลื่อนไหวเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยอย่างไรหลังเดือนธันวาคมไปแล้ว
วอลล์สตรีท เจอร์นัล ระบุว่า ตามส่วนหนึ่งของแผน “พึ่งข้อมูล” ที่เฟดทำขึ้นมาใหม่ เฟดอาจเลือกที่จะหยุดขึ้นดอกเบี้ยมาตรฐาน 0.25% ตามที่ทำเป็นประจำและไม่ขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม
หลังจากมีรายงานนี้ ดัชนีดาวโจนส์ซึ่งได้ดิ่งลงไปเกือบ 800 จุดในช่วงก่อนหน้า ก็สามารถปิดตลาดในวันพฤหัสบดีได้ดีขึ้น โดยปรับตัวลงเพียง 79.40 จุด ปิดที่ระดับ 24,947.67 จุด
เฟดได้ขึ้นดอกเบี้ยอย่างสม่ำเสมอในช่วงสองปีที่ผ่านมา เพราะเชื่อว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวเพียงพอ โดยไม่ต้องคงดอกเบี้ยไว้ที่ศูนย์เปอร์เซ็นต์อีกต่อไป หลังจากที่ดอกเบี้ยอยู่ในระดับนั้นมาเกือบทศวรรษนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงิน
แต่เนื่องจากการเติบโตทั่วโลกกำลังชะลอตัวลง ความตึงเครียดทางการค้ากำลังร้อนฉ่า และผลกระทบของนโยบายของเฟดเองเริ่มจะหยุดชะงัก ธนาคารกลางสหรัฐกำลังจะแสดงท่าทีอย่างระมัดระวังมากขึ้นที่จะประมาณการเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ย นอกเหนือจากที่มีการคาดการณ์อย่างกว้างขวางว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 1 ครั้งในเดือนนี้
พูดง่าย ๆ ก็คือ เฟดจะหยุดขึ้นดอกเบี้ยหากการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐเย็นลง แต่นั่นอาจจะไม่ใช่อย่างที่ทรัมป์มอง โดยเขาเคยพูดว่าเฟดขึ้นดอกเบี้ยเพราะคิดว่าเศรษฐกิจอเมริกาดีเกินไป
นักเศรษฐศาสตร์และนักวิเคราะห์หลาย ๆ คนได้ออกมาเตือนแล้วว่า เศรษฐกิจอเมริกาจะชะลอตัวลงในปีหน้าแม้ว่าอาจจะไม่ถึงกับเข้าสู่ภาวะถดถอย
คำถามจึงอยู่ที่ว่า เฟดควรจะปรับนโยบายต่อการชะลอตัวนั้นอย่างไร และมากและรวดเร็วเพียงไร ?
แต่ไม่ว่าเฟดจะเดินไปในทางใด ทรัมป์ก็ไม่น่าจะพอใจ หากเศรษฐกิจสหรัฐยังคงขยายตัวในอัตราปัจจุบัน ทรัมป์ก็คงจะวิจารณ์การขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มอีก แต่หากเศรษฐกิจชะลอตัวลง ทรัมป์ก็น่าจะโทษเฟดอยู่ดี ซึ่งเขาได้กล่าวเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า นโยบายของเฟดทำให้ตลาดหุ้นดิ่ง
คนที่รู้จัก เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ บอกว่า พาวเวลล์จะทำอะไรก็ตามที่คิดว่าดีต่อเศรษฐกิจ โดยจะไม่ยอมก้มหัวให้กับการโจมตีจากประธานาธิบดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งพาวเวลล์เป็นคนที่ให้ความสำคัญต่อความน่าเชื่อถือในระยะยาวของเฟดในฐานะที่เป็นสถาบันที่เป็นอิสระจากแรงกดดันทางการเมือง
ทรัมป์ได้หาว่าเฟด “บ้า” และในสัปดาห์ที่ผ่านมาได้กล่าวว่า เขาไม่พอใจแม้แต่น้อยกับการแต่งตั้งเจอโรม พาวเวลล์ ซึ่งได้ขึ้นดอกเบี้ยไปแล้วสามครั้งนับตั้งแต่มารับตำแหน่งเป็นประธานธนาคารกลางสหรัฐในเดือนกุมภาพันธ์
ท่าทีของทรัมป์ได้อ่อนลงอย่างเห็นได้ชัดหลังจากที่พาวเวลล์ปราศรัยเมื่อสองสัปดาห์ก่อน และตลาดตีความว่าเป็นสัญญาณว่าเฟดจะหยุดรณรงค์ขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาด
อย่างไรก็ดี เฟดน่าจะขึ้นดอกเบี้ยอย่างแน่นอนอีกครั้งหลังการประชุมในวันที่ 18-19 ธันวาคมนี้ และการปราศรัยของพาวเวลล์ตั้งใจที่จะย้ำเป็นส่วนใหญ่ว่า การขึ้นดอกเบี้ยสามครั้งในปีหน้าตามที่เฟดได้คาดการณ์ไว้จะขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจ
จอห์น วิลเลี่ยม ประธานธนาคารกลางสหรัฐสาขานิวยอร์กก็ได้ออกมาย้ำถึงความพร้อมของเฟดที่จะเปลี่ยนแปลงนโยบายดอกเบี้ยว่า ขึ้นอยู่กับว่าเฟดมองว่าเศรษฐกิจจะเดินไปทางไหน
ในท้ายที่สุดแล้ว เฟดและทรัมป์คงจะมองเศรษฐกิจแตกต่างกันในเชิงพื้นฐาน ในขณะที่เป้าหมายของคณะบริหารคือต้องทำให้การเติบโตอยู่ที่ 3% อย่างยั่งยืน ธนาคารกลางสหรัฐไม่คิดว่าเศรษฐกิจมีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะรักษาอัตราการเติบโตนั้นไว้ได้โดยไม่ก่อเงินเฟ้อ
ดังนั้นหากเศรษฐกิจโตใกล้เป้าหมายของคณะบริหารเหมือนเมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากการลดภาษีและเพิ่มการใช้จ่ายของรัฐบาล เฟดน่าจะยังขึ้นดอกเบี้ยอย่างระมัดระวัง
การขึ้นดอกเบี้ยเร็วเกินไปหรือช้าเกินไปมีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดภาวะถดถอย ซึ่งเคยมีตัวอย่างให้เห็นมาเพียงพอแล้ว ในวงจรการขึ้นดอกเบี้ย 13 วงจรนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง มี 10 วงจรที่เศรษฐกิจสหรัฐถดถอยซึ่งย้ำให้เห็นว่าเฟดจำเป็นต้องให้ความสนใจอย่างใกล้ชิดต่อข้อมูลใหม่
นอกเหนือจากปัญหาภายในประเทศอย่างเช่นเรื่องสงครามการค้า การแข็งค่าของดอลลาร์ และแนวโน้มที่จะมีการต่อสู้เรื่องการกู้ยืมในสภาคองเกรส ธนาคารกลางสหรัฐต้องจับตามองผลกระทบจากการออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ ปัญหางบประมาณในอิตาลี และการขยายตัวที่ลดลงของเศรษฐกิจจีนด้วย
ยังไม่แน่นอนว่าเจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐจะส่งสัญญาณอย่างไรในสัปดาห์หน้า แต่ตามความเห็นของคริสติน ลาการ์ด กรรมการผู้จัดการ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เฟดน่าจะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยเมื่อพิจารณาข้อมูลเศรษฐกิจ
ถ้าเป็นอย่างที่บอสหญิงไอเอ็มเอฟว่า ความพยายามของทรัมป์ในการโจมตีเฟดก็น่าจะเห็นผลเสียที แต่ไม่ได้เป็นเพราะเขากดดัน แต่เป็นเพราะเศรษฐกิจชะลอตัวต่างหาก
Source: ข่าวหุ้น