คู่เงิน GBP/USD ยังคงอ่อนค่าติดต่อกันเป็นวันที่สี่ โดยซื้อขายอยู่บริเวณระดับ 1.3380 ในช่วงเวลาการซื้อขายเอเชียของวันพุธ ทั้งนี้ คู่เงินดังกล่าวเผชิญแรงกดดันจากความไม่แน่นอนก่อนการประกาศข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาขายปลีก (RPI) ของเดือนกันยายนจากสหราชอาณาจักร
🔹 การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Overview)
จากมุมมองทางเทคนิค การทะลุขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อย่างง่าย 100 ช่วงเวลา (100-period SMA) บนกราฟ 4 ชั่วโมงเมื่อคืนที่ผ่านมา และการเคลื่อนไหวต่อเนื่องเหนือระดับ Fibonacci retracement ที่ 38.2% จากการย่อตัวครั้งล่าสุด (ซึ่งเกิดหลังจากราคาทำจุดสูงสุดในรอบกว่า 2 เดือนเมื่อเดือนกันยายน) เป็นสัญญาณบวกต่อแรงซื้อ (bullish momentum) ของคู่เงินนี้
นอกจากนี้ เครื่องมือ oscillator บนกราฟ 4 ชั่วโมงยังแสดงแรงส่งเชิงบวก (positive traction) ซึ่งสนับสนุนแนวโน้มการปรับขึ้นต่อไปของ GBP/USD
ดังนั้น การขยับขึ้นต่อเนื่องไปยังระดับ Fibonacci retracement 50% บริเวณ 1.3480–1.3485 จึงมีความเป็นไปได้สูง หากราคาทะลุแนวต้านจิตวิทยาที่ 1.3500 ได้อย่างมั่นคง จะกลายเป็นสัญญาณกระตุ้นรอบใหม่สำหรับฝั่งซื้อ (bullish traders) และอาจเปิดทางให้ราคาปรับขึ้นต่อไปสู่แนวต้านถัดไปบริเวณ 1.3545–1.3550 หรือระดับ Fibonacci retracement 61.8%
ในทางกลับกัน หากเกิดการปรับฐานลง แนวรับระยะสั้นคาดว่าจะอยู่ที่บริเวณ 1.3400 ขณะที่แนวรับถัดไปอยู่ที่โซน 1.3355 (ระดับ Fibonacci 23.6%) หากราคาหลุดต่ำกว่านี้ มีโอกาสที่แรงขายจะเพิ่มขึ้นและผลักดันราคาให้ลงไปทดสอบแนวจิตวิทยาที่ 1.3300 และอาจต่อเนื่องไปยังจุดต่ำสุดในรอบสองเดือนครึ่งบริเวณ 1.3250–1.3245 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดที่เกิดขึ้นเมื่อวันอังคาร
🔹 การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Overview)
ข้อมูลการจ้างงานของสหราชอาณาจักรที่อ่อนแอกว่าคาดในวันอังคาร ส่งผลให้เกิดการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) อาจเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ยต่อไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป
นอกจากนี้ ความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการคลังของสหราชอาณาจักร ก่อนการประกาศงบประมาณฤดูใบไม้ร่วง (Autumn Budget) ในเดือนพฤศจิกายน ยังกดดันให้ตลาดมีท่าทีระมัดระวัง ไม่กล้าเปิดสถานะซื้อปอนด์สเตอร์ลิง (GBP) ในเชิงรุกมากนัก ส่งผลให้แรงหนุนของ GBP/USD ถูกจำกัดและกลายเป็นปัจจัยถ่วงทิศทางของคู่เงินนี้ในระยะสั้น
สรุปภาพรวม:
แม้สัญญาณทางเทคนิคชี้ว่ามีโอกาสฟื้นตัวระยะสั้น แต่แรงกดดันจากปัจจัยพื้นฐาน โดยเฉพาะทิศทางนโยบายการเงินของ BoE และความไม่แน่นอนทางการคลัง ยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการปรับขึ้นของ GBP/USD ในช่วงนี้

