ราคาน้ำมันมีการดีดตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องหนึ่งมาจากแรงกดดันมาจากการคว่ำบาทของเวเนซุเอลาของสหรัฐอเมริกาที่ประกาศคว่ำบาตร
สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นหลังจากสหรัฐประกาศคว่ำบาตรบริษัทปิโตรเลออส เดอ เวเนซุเอลา (PDVSA) ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันของรัฐบาลเวเนซุเอลา โดยการคว่ำบาตรดังกล่าวจะทำให้ PDVSA ถูกอายัดทรัพย์สินมูลค่า 7 พันล้านดอลลาร์ และอาจทำให้ PDVSA สูญเสียยอดขายมากถึง 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีหน้า
การใช้มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐมีขึ้น หลังจากสหรัฐให้การยอมรับนายฮวน กุยโด ประธานสมัชชาแห่งชาติและผู้นำพรรคฝ่ายค้านของเวเนซุเอลา ในฐานะประธานาธิบดีรักษาการของเวเนซุเอลา และกล่าวประนามนายนิโคลัส มาดูโร ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเวเนซุเอลา หลังได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้วด้วยคะแนนเสียงมากกว่า 2 ใน 3
กระทรวงการคลังสหรัฐระบุว่า PDVSA ว่า เป็นแหล่งรายได้หลักและดึงดูดเม็ดเงินสกุลเงินต่างประเทศของเวเนซุเอลา ซึ่งการขึ้นบัญชีดำจะช่วยป้องกันไม่ให้นายมาดูโรโยกย้ายสินทรัพย์ของเวเนซุเอลา พร้อมประกาศว่า จะยกเลิกการคว่ำบาตรเมื่อมีการถ่ายโอนอำนาจการบริหารประเทศสู่ประธานาธิบดีรักษาการ หรือรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย
ที่ผ่านมานั้น สหรัฐเป็นผู้ซื้อน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของเวเนซุเอลา ตามมาด้วยอินเดียและจีน
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลล์สำรวจของเอสแอนด์พี โกลบอล แพลทส์ คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 3.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว และคาดว่าสต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 2.8 ล้านบาร์เรล แต่คาดว่าสต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลงราว 2 ล้านบาร์เรล
โดยในตอนนี้ราคาน้ำมันขึ้นไปถึง 54.63 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรลสำหรับ WTI ส่งมอบเดือน มี.ค.
ซึ่งเป็นผลทำให้สกุลเงินแคนาดามีการแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อ่านต่อได้ที่ : https://www.ryt9.com/s/iq35/2946994