PBOC อัดฉีดเงินเข้าระบบ 2 แสนล้านหยวน หลังสภาพคล่องปลายปีเริ่มตึงตัว
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้อัดฉีดเงินสดเข้าสู่ระบบการเงินผ่านข้อตกลงการซื้อคืนย้อนหลัง 7 วัน ในวงเงิน 2 แสนล้านหยวน (3.1 หมื่นล้าน) ซึ่งนับเป็นการอัดฉีดเงินสดระยะสั้นเข้าสู่ระบบเป็นวงเงินที่สูงที่สุดในรอบ 2 เดือน หลังอัตราดอกเบี้ยซื้อคืน 7 วันได้เพิ่มมาอยู่ที่ 2.37% และต้นทุนการกู้ยืมระยะสั้นอายุ 7 วันได้เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 5.35% ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ ม.ค.เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ PBOC อัดฉีดเงินสดเข้าสู่ระบบการเงินของประเทศในครั้งนี้มาจากการที่ สภาพคล่องทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มตึงตัวในช่วงปลายปี เนื่องจากธนาคารพาณิชย์ในประเทศได้กักตุนเงินสดไว้เพื่อเตรียมรับการตรวจสอบด้านกฎระเบียบ หลังจาก PBOC ได้ลดอัตราส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ในอัตรา 0.50% เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งธนาคารทุกแห่งจำเป็นต้องรักษาปริมาณเงินสดให้เพียงพอเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศจากการระบาดของไวรัสโควิด-19
นอกจากนี้ PBOC ยังได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่าจะเดินหน้าการใช้นโยบายการเงินที่ยืดหยุ่นในปีหน้าท่ามกลางความมุ่งมั่นที่จะสร้างเสถียรภาพให้กับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และลดต้นทุนทางการเงิน สำหรับธุรกิจท่ามกลางอุปสรรคทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น หลังจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้ชะลอตัวอย่างรุนแรงในปีนี้ โดยจะใช้เครื่องมือทางการเงินที่มีอยู่ในเชิงรุุกเพื่อรักษาสภาพคล่องทางการเงินของจีนให้สอดคล้องกับการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในปี 2565 ต่อไป
แหล่งที่มาของข่าว
https://www.efinancethai.com/LastestNews/LatestNewsMain.aspx?ref=A&id=dHpkeDVCNVBxeVU9