ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (14 มี.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดตลาดในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ยังไม่คืบหน้า โดยความกังวลในเรื่องดังกล่าวเป็นปัจจัยฉุดหุ้นบริษัทผลิตชิปซึ่งต้องพึ่งพารายได้จากจีน ขณะที่หุ้นกลุ่มธุรกิจสร้างบ้านร่วงลงหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐลดลงเกินคาดในเดือนม.ค.
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,709.94 จุด เพิ่มขึ้น 7.05 จุด หรือ +0.03% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,808.48 จุด ลดลง 2.44 จุด หรือ -0.09% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,630.91 จุด ลดลง 12.50 จุด หรือ -0.16%
— ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (14 มี.ค.) ขณะที่นักลงทุนรอรัฐสภาอังกฤษลงมติว่าจะขยายเวลาการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (EU) จากกำหนดเส้นตายในวันที่ 29 มี.ค.หรือไม่ โดยหลังจากปิดตลาด รัฐสภาอังกฤษลงมติด้วยคะแนนเสียง 412-202 เสียง เรียกร้องให้ EU ขยายกำหนดเส้นตายการถอนตัวของอังกฤษออกจาก EU (Brexit) ออกไปอีก 3 เดือน หรือจนถึงวันที่ 30 มิ.ย. แต่ข้อเรียกร้องนี้จะต้องได้รับความเห็นชอบจากทาง EU
ดัชนี Stoxx Europe บวก 0.78% ปิดที่ 378.52 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,349.78 จุด เพิ่มขึ้น 43.41 จุด หรือ +0.82% และ ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,587.47 จุด เพิ่มขึ้น 15.06 จุด หรือ +0.13% ขณะที่ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,185.43 จุด เพิ่มขึ้น 26.24 จุด หรือ +0.37%
— ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (14 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับต่อการที่รัฐสภาอังกฤษลงมติปฏิเสธการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) แบบไร้ข้อตกลงเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา และตลาดยังได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร แม้หุ้นกลุ่มเหมืองลดลงหลังถูกกดดันจากการเปิดเผยข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนที่ชะลอการขยายตัว
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,185.43 จุด เพิ่มขึ้น 26.24 จุด หรือ +0.37%
อ่านต่อได้ที่ : https://www.ryt9.com/s/iq20/2967757