ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (11 มี.ค.) หลังจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้น นำโดยหุ้นแอปเปิลที่ปิดตลาดพุ่งขึ้นกว่า 3% ขณะที่หุ้นกลุ่มค้าปลีกปรับตัวขึ้นหลังจากสหรัฐรายงานยอดค้าปลีกที่ขยายตัวได้ดีเกินคาด โดยปัจจัยดังกล่าวช่วยสกัดแรงลบจากการร่วงลงอย่างหนักของหุ้นโบอิ้ง หลังจากเกิดเหตุการณ์เครื่องบิน Boeing 737 MAX 8 ของสายการบินเอธิโอเปียนแอร์ไลน์ประสบอุบัติเหตุตกเมื่อวันอาทิตย์ จนเป็นเหตุให้ผู้โดยสารและลูกเรือเสียชีวิตทั้งหมด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,650.88 จุด เพิ่มขึ้น 200.64 จุด หรือ +0.79% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,783.30 จุด เพิ่มขึ้น 40.23 จุด หรือ +1.47% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,558.06 จุด เพิ่มขึ้น 149.92 จุด หรือ +2.02%
— ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (11 มี.ค.) นำโดยหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังการพุ่งขึ้นของหุ้นดอยช์ แบงก์และหุ้นคอมเมิร์ซแบงก์จากรายงานข่าวการเจรจาควบกิจการอย่างไม่เป็นทางการ ขณะที่นักลงทุนจับตารอรัฐสภาอังกฤษลงมติข้อตกลงการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษในวันอังคารนี้
ดัชนี Stoxx Europe บวก 0.78% ปิดที่ 373.47 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,265.96 จุด เพิ่มขึ้น 34.75 จุด หรือ +0.66% และ ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,543.48 จุด เพิ่มขึ้น 85.64 จุด หรือ +0.75% ขณะที่ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,130.62 จุด เพิ่มขึ้น 26.31 จุด หรือ +0.37%
— ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (11 มี.ค.) เนื่องจากเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงได้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มส่งออก และการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ช่วยหนุนตลาดด้วย ขณะที่นักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่การลงมติของรัฐสภาอังกฤษต่อข้อตกลงการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีในวันอังคารนี้
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,130.62 จุด เพิ่มขึ้น 26.31 จุด หรือ +0.37%
อ่านต่อได้ที่ : https://www.ryt9.com/s/iq20/2965946