ในช่วงที่ผ่านมา ความสนใจได้ถูกจดจ่อไปที่ การสำรองทองคำของสหรัฐฯ โดยเฉพาะที่เก็บทองคำใน Fort Knox
แม้ว่า สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังจะปฏิเสธความเป็นไปได้ในการ ปรับมูลค่าทองคำให้ตรงกับราคาตลาด โดยยืนยันว่าเขาไม่มีแผนที่จะเยือน ฟอร์ตน็อกซ์ และเสริมว่า “ทองคำทั้งหมดยังอยู่ที่นั่น”
อย่างไรก็ตาม จะทำให้สินทรัพย์ใน งบดุลของสหรัฐฯ เกิดมูลค่าเพื่อประโยชน์ของประชาชนอเมริกัน ซึ่งหลังจากนั้นได้ชี้แจงว่าสิ่งที่พูดนั้นหมายถึงการเพิ่มมูลค่าอื่นๆ ในงบดุล ไม่ใช่ การปรับมูลค่าทองคำ
การตรวจสอบทองคำ Fort Knox 

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวเมื่อวันพุธ (19 ก.พ.) ว่า กระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล (DOGE) จะหาคำตอบว่าทองคำแท่งใน คลังเก็บทอง และ ทรัพย์สมบัติล้ำค่าของสหรัฐฯ
ซึ่งขึ้นชื่อว่ามีระบบ รักษาความปลอดภัยดีที่สุดในโลก
“Fort Knox ยังไม่ได้สูญหายไป”
อีลอน มัสก์ ก็ออกมาประกาศแผน ตรวจสอบทองคำสำรองของฟอร์ตนอกซ์แบบพบหน้า
โดยเป็นในนามของหน่วยงาน ลดต้นทุนของเขา หรือ DOGE
ในทวีตเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ซึ่งมัสก์เขียนว่า:
“ใครเป็นผู้ยืนยันว่าทองคำไม่ได้ถูกขโมยไปจากฟอร์ตนอกซ์… เราต้องการทราบว่าทองคำยังอยู่ที่นั่นหรือไม่”
Fort Knox: คลังทองคำแห่งสหรัฐฯ
Fort Knox ตั้งอยู่ทางตอนกลางค่อนไปทางเหนือของ รัฐเคนทักกี
เป็น ที่เก็บทองคำสำรองของประเทศ
ปัจจุบันมีการบรรจุทองคำ 147.3 ล้านออนซ์
ซึ่งคิดเป็น มากกว่าครึ่งของทองคำสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ
ตัวเลขนี้เทียบเท่ากับทองคำแท่งขนาดมาตรฐานเกือบ 370,000 แท่ง
และเป็นสัญลักษณ์ของ ความมั่นคงทางการเงินของประเทศ
ความปลอดภัยสูงสุด ของ Fort Knox ได้รับการยืนยันจากข้อเท็จจริงว่าใน ประวัติศาสตร์ มีเพียง 3 ครั้งเท่านั้น ที่บุคคลภายนอกได้รับอนุญาตให้เข้าไป
ปี 1943 – ประธานาธิบดี แฟรงกลิน ดี. โรสเวลต์
ปี 1974 – สมาชิกรัฐสภากลุ่มเล็กๆ
ปี 2017 – คณะผู้แทนรวมถึงวุฒิสมาชิก มิตช์ แม็กคอนเนลล์ และ สตีเวน มนูชิน
การปรับมูลค่าทองคำจะทำให้ “ราคาทองคำ” สูงขึ้น? 

นักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่า การปรับมูลค่าทองคำ จะช่วยให้ ราคาทองคำสูงขึ้น
ซึ่งในตอนนี้ราคาทองคำก็กำลังพุ่งขึ้นอยู่แล้ว
เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา สำนักข่าว บลูมเบิร์ก รายงานว่า ราคาทองคำโลก
ยืนใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
โดย
ราคาทองคำแท่ง ใกล้ระดับ 2,940 ดอลลาร์ต่อออนซ์
เพิ่มขึ้น 2% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ มูลค่าตลาดของทองคำ พุ่งสูงเกิน 20 ล้านล้านดอลลาร์ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
ปัจจัยที่ทำให้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้น:
ความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯ และยุโรป
ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น
แนวโน้มการปรับมูลค่าทองคำสำรองของสหรัฐฯ
สหรัฐฯ เป็นประเทศที่มีทองคำสำรองมากที่สุดในโลก
ปี 2024 สหรัฐฯ เป็นประเทศที่ ถือครองทองคำสำรองมากที่สุดในโลก
โดยมีทองคำสำรอง 8,133 เมตริกตัน
ซึ่งมากกว่าประเทศอันดับ 2 อย่าง เยอรมนี
ที่มีเพียง 3,352 ตัน หรือเกือบ 2.5 เท่า
อย่างไรก็ตาม มูลค่าทองคำสำรองของสหรัฐฯ ยังคงอยู่ที่ 42 ดอลลาร์ต่อออนซ์มาตั้งแต่ปี 1973
ทำให้มูลค่ารวมอยู่ที่เพียง 11 พันล้านดอลลาร์
หากมีการปรับมูลค่าทองคำให้สอดคล้องกับราคาตลาด จะช่วยเพิ่มแรงขับเคลื่อนให้ราคาทองคำสูงขึ้น
ธนาคารกลางซื้อทองคำเพิ่มขึ้น
ปี 2024 ธนาคารกลางทั่วโลก ซื้อทองคำไปแล้วกว่า 1,000 ตัน
เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน
โดยมี
ธนาคารกลางโปแลนด์
ซื้อเพิ่มอีก 90 ตัน
ธนาคารประชาชนจีน
ซื้อเพิ่ม 5 ตัน ทำให้สำรองทองคำของจีนรวมเป็น 2,285 ตัน
แนวโน้มทองคำในตลาดโลกยังคงสดใส
ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นเป็นความท้าทายของอุตสาหกรรมทองคำ
ต้นทุนการขุดทองสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์!
ต้นทุนเฉลี่ยของเหมืองทองคำอยู่ที่ 1,456 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในไตรมาสที่ 3 ปี 2024
แม้ว่าต้นทุนจะสูงขึ้น แต่หุ้นบริษัทเหมืองทองคำยังคงถูกประเมินต่ำกว่ามูลค่า ทำให้ เป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักลงทุน
ดัชนี NYSE Arca Gold Miners
ได้ทะลุแนวรับทางเทคนิค
โดยค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วันตัดผ่านค่าเฉลี่ย 200 วัน
บทสรุป
Fort Knox ยังคงเป็นศูนย์กลางของการสำรองทองคำสหรัฐฯ
การปรับมูลค่าทองคำอาจส่งผลต่อราคาตลาดโลก
ทองคำยังคงเป็น สินทรัพย์ปลอดภัยอันดับหนึ่ง ในช่วงที่เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอน
#ทองคำ #FortKnox #ราคาทองคำ #เศรษฐกิจโลก