นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ยังคงเผชิญแรงกดดันจากนักการเมืองอังกฤษ โดยเสี่ยงที่จะเสียอำนาจควบคุมเรื่องการถอนอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ให้กับรัฐสภาอังกฤษ ก่อนที่ทางรัฐสภาจะอภิปรายและลงมติต่อแผน Brexit ฉบับใหม่ของนางเทเรซา เมย์ ในวันนี้
ขณะนี้นายกฯอังกฤษ ยังเผชิญกับความเสี่ยงแม้นางเมย์ได้ยอมเปลี่ยนแปลงเนื้อหาในนโยบาย Backstop ซึ่งเป็นนโยบายเกี่ยวกับระบบศุลกากรระหว่างไอร์แลนด์เหนือกับสาธารณรัฐไอร์แลนด์ เพื่อเรียกเสียงสนับสนุนให้มากพอที่จะทำให้ข้อตกลง Brexit ของเธอได้รับความยินยอมจากรัฐสภาอังกฤษ
การที่นางเมย์ยอมอ่อนข้อนโยบาย Backstop เช่นนี้เท่ากับว่าเป็นการผิดข้อตกลงที่ก่อนหน้านั้นเธอเคยทำไว้กับสหภาพยุโรป แต่ถึงอย่างนั้น นางเมย์ยังคงต้องดิ้นรนเพื่อขัดขวางไม่ให้รัฐสภามีอำนาจในการเลื่อนกระบวนการ Brexit ออกไปจากกำหนดการเดิม หลังนางอีเวตต์ คูเปอร์ สมาชิกรัฐสภาสังกัดพรรคแรงงาน ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน ได้ยื่นข้อเสนอเพื่อขอให้รัฐสภาเข้ามามีอำนาจในกระบวนการ Brexit ขณะที่ผู้นำพรรคแรงงานได้เตรียมสั่งให้สมาชิกรัฐสภาในสังกัดโหวตรับรองข้อเสนอดังกล่าว
ก่อนหน้านี้ นายบอริส จอห์นสัน อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ได้เรียกร้องให้นางเมย์เปลี่ยนแปลงเนื้อหาในนโยบาย Backstop ด้วยการระบุข้อสัญญาให้ไอร์แลนด์เหนือซึ่งเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักร แยกเป็นอิสระจากสาธารณรัฐไอร์แลนด์ ซึ่งเป็นรัฐสมาชิกของสหภาพยุโรป พร้อมระบุว่า หากนางเมย์ทำเช่นนี้ได้แล้ว นางเมย์ก็น่าจะได้รับเสียงสนับสนุนมากพอที่จะทำให้ข้อตกลง Brexit ของเธอได้รับความยินยอมจากรัฐสภาอังกฤษ
นโยบาย Backstop คือนโยบายที่ทั้งสองฝ่ายใช้ระบบศุลกากรร่วมกัน ครอบคลุมสินค้าเกือบทุกชนิด ยกเว้นสินค้าประมง ซึ่งหมายถึงการมอบอำนาจในการกำหนดอัตราภาษีขาเข้าให้กับสหภาพยุโรปหลังแยกตัวไปแล้ว โดยนโยบายดังกล่าวไม่เป็นที่นิยมในหมู่นักการเมืองอังกฤษที่สนับสนุน Brexit เพราะกังวลว่าจะเป็นการผูกมัดสหราชอาณาจักรเข้ากับระเบียบของสหภาพยุโรป
อ่านต่อได้ที่ : https://www.ryt9.com/s/iq37/2946654