ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าพุ่งขึ้นเกือบ 200 จุดในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะดีดตัวขึ้นในคืนนี้ ขานรับการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทเฟซบุ๊ก และเจเนอรัล มอเตอร์ (GM)
นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ที่ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้ากับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในการพบปะกันนอกรอบการประชุม G20 ที่กรุงบัวโนสไอเรสของอาร์เจนตินาในเดือนหน้า
ณ เวลา 18.53 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าบวก 180 จุด หรือ 0.72% สู่ระดับ 25,039 จุด
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า เขาคิดว่าสหรัฐจะสามารถทำข้อตกลงทางการค้าครั้งใหญ่กับจีน แต่เขาก็เตือนว่าสหรัฐพร้อมที่จะเรียกเก็บภาษีอีก 2.67 แสนล้านดอลลาร์ต่อสินค้าจีน หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับจีน
ขณะนี้ สหรัฐได้เรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนในวงเงิน 2.50 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่จีนก็ได้ตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐในวงเงิน 1.10 แสนล้านดอลลาร์
ถึงแม้ว่าดัชนีดาวโจนส์จะสามารถดีดตัวขึ้นในวันนี้ แต่ก็มีแนวโน้มร่วงลง 6% ในเดือนนี้ ทำสถิติเป็นเดือนที่ปรับตัวย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2558 โดยได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน, การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ และการประกาศผลประกอบการที่น่าผิดหวังของบริษัทจดทะเบียนบางแห่ง
ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้นกว่า 400 จุดเมื่อคืนนี้ หลังจากปธน.ทรัมป์ส่งสัญญาณความพร้อมที่จะทำข้อตกลงกับจีน เพื่อคลี่คลายข้อพิพาททางการค้าระหว่างสองประเทศ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงโคคา โคล่า
หุ้นของบริษัทเจเนอรัล มอเตอร์ (GM) บริษัทผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ พุ่งขึ้นกว่า 10% ในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดวอลล์สตรีทวันนี้ หลังจากที่บริษัทเปิดเผยกำไร และรายได้พุ่งขึ้นเกินคาดในไตรมาส 3
ทั้งนี้ GM เปิดเผยว่า บริษัทมีกำไร 1.87 ดอลลาร์/หุ้น เมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 1.25 ดอลลาร์/หุ้น
นอกจากนี้ บริษัทระบุรายได้ที่ระดับ 3.579 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.485 หมื่นล้านดอลลาร์